เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไร? เพิ่มจำนวนเกล็ดเลือดด้วยโภชนาการ

เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไร

เกล็ดเลือดคืออะไร?

เกล็ดเลือดเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่ควบคุมผลกระทบที่รุนแรงจากบาดแผลที่อาจทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหาย ร่างกายจะคอยตรวจสอบจำนวนเกล็ดเลือดอยู่เสมอ หากมีเกล็ดเลือดต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่น เลือดออกมากแม้เพียงบาดแผลเล็กๆ

สำหรับคนทั่วไป จำนวนเกล็ดเลือดในร่างกายปกติจะอยู่ที่ 1.5 – 4 แสนตัวต่อไมโครลิตรของเลือด อย่างไรก็ตาม หากมีเกล็ดเลือดมากกว่า 4 แสนตัว จะเรียกว่าภาวะ Thrombocytosis และหากมีเกล็ดเลือดต่ำกว่า 1.5 แสนตัว จะเรียกว่าภาวะ Thrombocytopenia

อาการของเกล็ดเลือดต่ำ

อาการที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับระดับของเกล็ดเลือด

ในกรณีที่ไม่รุนแรง เช่น เกล็ดเลือดต่ำจากการตั้งครรภ์ มักไม่แสดงอาการใดๆ แต่หากรุนแรงมากขึ้น อาจมีปัญหาเลือดออกไม่หยุด

สาเหตุที่ทำให้เกล็ดเลือดต่ำ

• โรคมะเร็ง หรือโรคตับรุนแรง

• ลูคีเมีย ภาวะโลหิตจางบางชนิด หรือการติดเชื้อไวรัส

• การสัมผัสสารเคมีอันตราย

• การตั้งครรภ์

• การรับยาเคมีบำบัด

• การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก

• การขาดวิตามินที่จำเป็น เช่น วิตามิน B12

เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไร อาหารที่ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด

กรดไขมันโอเมก้า-3

เกล็ดเลือดต่ำต้องกินอะไร การศึกษาทางคลินิกพบว่าอาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า-3 มีผลดีต่อการเพิ่มจำนวนเกล็ดเลือดเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม อาหารที่มีโอเมก้า-3 สูง ได้แก่ น้ำมันปลาแซลมอน วอลนัท น้ำมันตับปลา เป็นต้น

สารสกัดว่านหางจระเข้

มีคุณสมบัติต้านไวรัสและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนเกล็ดเลือดในร่างกาย

น้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี

เป็นอาหารที่มีเกล็ดเลือดสูง ประกอบด้วย แมกนีเซียม โพแทสเซียม วิตามิน โซเดียม และกรดอะมิโน ซึ่งช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน (Hb) เซลล์เม็ดเลือดขาว (WBCs) และเซลล์เม็ดเลือดแดง (RBCs) ทำให้เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้น

สารสกัดจากใบมะละกอ

มะละกอ โดยเฉพาะ สารสกัดจากใบมะละกอ มีสารต้านการอักเสบและสารประกอบสำคัญ เช่น แทนนิน และอัลคาลอยด์ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดและเพิ่มจำนวนเกล็ดเลือด

ผลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น ราสพ์เบอร์รี่ โกจิเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดและปรับสมดุลคอเลสเตอรอลดี (HDL)

แครอท ฟักทอง และเคล

อุดมไปด้วย วิตามินเอ ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเกล็ดเลือด

ผักใบเขียว

ผักใบเขียว เช่น เคล ผักโขม และหน่อไม้ฝรั่ง เป็นแหล่งของ โฟเลต (Folate) ที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแบ่งเซลล์และเพิ่มจำนวนเกล็ดเลือด

ผลิตภัณฑ์จากนม

อาหารประเภท ไข่ นม และชีส อุดมด้วย วิตามิน B12 ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดและเพิ่มเกล็ดเลือด

ทับทิม

เป็นแหล่งของ ธาตุเหล็ก ที่ช่วยเพิ่มจำนวนเกล็ดเลือด นอกจากนี้ยังสามารถรับธาตุเหล็กจาก ถั่วเลนทิล ลูกเกด และผักใบเขียวบางชนิด

มะขามป้อม (Amla)

ผลไม้ที่มี วิตามินซีสูง เช่น มะขามป้อม สับปะรด บรอกโคลี มะเขือเทศ และมะม่วง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกล็ดเลือด และยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

ตับและเนื้อสัตว์

เป็นแหล่งของ วิตามินเค ซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ รวมถึงเซลล์เกล็ดเลือด

กีวี

เป็นแหล่งที่ดีของ วิตามินซีและโพแทสเซียม มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยไข้เลือดออก เพราะช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดและให้พลังงานแก่ร่างกาย

นมอัลมอนด์ และนมถั่วเหลือง

อุดมไปด้วย วิตามิน B12 ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือด รวมถึงเกล็ดเลือด

สารอาหารที่ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด

แพทย์มักแนะนำสารอาหารต่อไปนี้เพื่อช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด

• วิตามินเค

• วิตามินดี

• วิตามินซี

• วิตามินเอ

• วิตามิน B12

• โฟเลต

• ธาตุเหล็ก

อาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด

• คลอเรลลา เป็นสาหร่ายที่อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเกล็ดเลือด

• เมลาโทนิน ช่วยเพิ่มการผลิตเกล็ดเลือด

• สารสกัดจากใบมะละกอ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือด

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากต้องการเพิ่มเกล็ดเลือด

มีอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่อาจลดจำนวนเกล็ดเลือด เช่น

• แอลกอฮอล์

• น้ำแครนเบอร์รี่

• แอสพาแตม (สารให้ความหวานเทียม)

• ควินิน (สารที่พบในน้ำโทนิคและมะนาวขม)

หากต้องการเพิ่มเกล็ดเลือด ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ และเน้นรับประทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเกล็ดเลือดแทน