เมนูอาหาร เพิ่มเกล็ดเลือด : เพิ่มเกล็ดเลือดได้ง่ายๆไม่ต้องพึ่งยา
เมนูอาหาร เพิ่มเกล็ดเลือด : เพิ่มเกล็ดเลือดได้ง่ายๆไม่ต้องพึ่งยา
อาการเกล็ดเลือดต่ำ หรือศัพท์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า “ Thrombocytopenia” คือ อาการผิดปกติทางร่างกายซึ่งส่งผลให้เลือดในร่างกายมีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ
เกล็ดเลือด คือ เซลล์เลือดที่มีขนาดเล็กที่สุด สามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อทำหน้าที่อุดหลอดเลือด หรือแผลเพื่อไม่ให้เลือดออกจากร่างกายมากเกินไป เกล็ดเลือดหมุนเวียนอยู่ในร่างกายมีอายุขัยเฉลี่ย 5 – 9 วัน
จำนวนเกล็ดเลือดในร่างกายของคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นปกติอยู่มรา 150,000 – 450,000 เซลล์ ต่อ เลือด 1 ไมโครลิตร เมื่อไหร่ก็ตามจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่า 150,000 เซลล์ ต่อ ไมโครลิตร ถือได้ว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
ทั้งนี้ มี 3 เหตุผลหลักที่ส่งผลให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้แก่
เกล็ดเลือดมีปริมาณต่ำจาก โรงมะเร็งบางชนิด หรือโรคตับขั้นรุนแรง
การผลิตเกล็ดเลือดที่ลดลงจาก โรงลูคิเมีย, โรคโลหิตจาง, การติดเชื้อไวรัส, อยู่ระหว่างการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด, การดื่มแอลกอฮอร์มากเกินไป หรือขาดวิตามิน B 12
เกล็ดเลือดเกิดการเสียหายจาก โรคพุ่งพวง, การตอบสนองต่อยาบางชนิด หรือ การติดเชื้อในกระแสเลือด
อาการบางอย่างที่สามารถบ่งชี้ถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำอาจสังเกตุได้ง่ายๆ เช่น อาการเลือดไหลแล้วหายหยุดยาก, เลือดออกตามเหงือก หรือเลือดกำเดาไหลง่าย, เลือดไหลออกมากับปัสสาวะ หรืออาการแผลขันเลือดออกตามผิวหนังเนื่องจากอาการเลือดออกตามผิวหนัง เป็นต้น
โดยในผู้หญิงจะพบอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ ซึ่งคนที่ประสบปัญหาเกล็ดเลือดต่ำจะพบอาการออกเพลีย และไรเรี่ยวแรง ตามไปด้วย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร และการรักษาแบบง่ายๆ จะช่วยให้เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ยา อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ตรวจพบภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรงคนเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยด่วน
ต่อไปนี้คือ 10 วิธีการเพิ่มเกล็ดเลือด และอาหารเพิ่มเกล็ดเลือดจากธรรมชาติ
ไก่ดำ
ไก่ดำอุดมไปด้วยสารอาหาร และแร่ธาตุที่สำคัญต่อการสร้างเกล็ดเลือด ถูกยกย่องให้เป็นอาหารที่มีสรรพาคุณทางยาที่สามารถรับประทานได้ทุกวัน เนื้อไก่ดำ มีไขมันต่ำกว่าไก่ทั่วไปถึง 5.5 เท่า และมีโปรตีนสูงกว่า 22% นอกจากนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เมลานิน และ คาร์โนซิน ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ และการเกิดไขมันอุดตัน ที่สำคัญ คือ เนื้อไก่ดำมีธาตุเหล็กสูงมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างเซลล์เลือด และเกล็ดเลือด ส่วนมากนิยมนำไปปรุงเป็นเมนูไก่ดำตุ๋นยาจีน ซึ่งมีขั้นตอนการปรุงง่าย ได้รับคุณค่าทางยาจากสมุนไพรจีน และร่างกายสามารถดูดซับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ทำให้ทุกมื้ออาหารเปรียบได้กับการทานยาบำรุงร่างกาย และบำรุงเลือดไปในตัว
2. มะละกอ
ทั้งผลมะละกอ และใบมะละกอสามารถช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดได้อย่างรวดเร็ว การทานผลมะละกอจะช่วยให้ร่างกายได้แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเกล็ดเลือด เช่น วิตามิน C ที่ช่วยในการดูดซับธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเลือด และเกล็ดเลือด และในส่วน ใบมะละกอนั้น อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อ้างอิงตามงานวิจัยของ สถาบันวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี แห่งเอเชีย ประจำประเทศมาเลเซีย ในปี 2009 จากการวิจัย พบว่า การดื่มน้ำต้มจากใบมะละกอสามารถช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดได้ (สามารถหาทานในรูปสารสกัดแบบแคปซูลได้)
3.ต้นอ่อนข้าวสาลี
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวรสารเภสัชศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในปี 2011 พบว่า ต้นอ่อนข้าวสาลีมีส่วนช่วยในการสร้างเกล็ดเลือดในร่างกาย ซึ่งการทดลองชี้ว่า ต้นอ่อนข้าวสาลีช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกบีน, เซลล์เม็ดเลือดแดง และเซลล์เม็ดเลือดขาว เนื่องจากต้นอ่อนข้าวสาลีอุดมไปด้วยคอลโลฟิลซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับฮีโมโกลบิน และเซลล์เม็ดเลือดแดงของมนุษย์อย่างมาก
4.ฟักทอง
วิตามิน A ที่มีอยู่มากในฟักทองช่วยในการเพิ่มการสร้างเกล็ดเลือดในร่างกายอย่างมาก เนื่องจากวิตามิน A ทำหน้าที่ควบคุมการสร้าง และการทำงานของโปรตีนเฉพาะที่มีส่วนทำคัญในการสร้างเกล็ดเลือดในร่างกาย
5.ผักโขม
วิตามิน K ในฟักโขมเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของเกล็ดเลือด ซึ่งวิตามิน K ใช้ในเกล็ดเลือดสามารถเกาะกลุ่มกันได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น หากร่างกายขาดวิตามิน K จะทำให้การทำงานของเกล็ดเลือดช้าลง เช่น แผลเลือดออกหายช้า
6.วิตามิน C
การรับประทานอาหารที่มีวิตามิน C หรือ กรดแอสคอร์บิกสูง ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดในร่างกายได้ตามงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวรสารด้านระบบโลหิตวิทยา ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1990 ทั้งนี้ วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายเกล็ดเลือดในร่างกาย โดยควรบริโภควิตามิน C ต่อวัน ให้ได้ประมาณ 400 ถึง 2,000 mg
การรับประทานมะขามป้อมถือเป็นอาหารเพิ่มเกล็ดเลือดชั้นเยี่ยม เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน C ในระบสูง, หาทานได้งาน และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อีกด้วย
7.น้ำมันงาน
น้ำมันงานสกัดเย็นช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่มีต่อเกล็ดเลือด ลดอาการอักเสบภายในร่างกาย และบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด การรับประทานสามารถเลือกทานน้ำมันงาสกัดเย็นได้โดยตรง 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือนำมาใช้ในการประกอบอาหาร เช่น การผสมน้ำมันงากับเมนูสลัด เป็นต้น
8.บีทรูท
บีทรูทอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่เกี่ยวกับกลไกการห้ามเลือด สามารถเลือดทานเป็นแบบน้ำมันผลคั้นสด หรือทานคู่กับสลัดได้
9.น้ำ
เซลล์เลือดประกอบไปด้วย และโปรตีน เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงแนะนำให้ดื่มน้ำเป็นปริมาณมากในทุกๆวัน อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารทำให้การดูดซับสารอาหารในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องที่มั่นใจแล้วว่าสะอาด โดยแนะนำให้ดื่ม 8 ถึง 10 แก้ว ต่อวัน
10.ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างระบบการหมุนเวียนของเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และนำไปสู่การเพิ่มเกล็ดเลือดในร่างกาย
สรรพคุณของไก่ดำกินดีฟาร์มที่มากกว่าไก่ทั่วไป
✅มีไขมันต่ำมาก เพียง 3.0 % ต่ำกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 5.5 เท่า
✅มีโปรตีนสูงถึง 85.35% มากกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 22.17 %
✅ มีสารสีเมลานิน ซึ่งเป็น Antioxidant ที่ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดโอกาสการเกิด ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ฯลฯ
✅มีCarnosineซึ่งมีคุณสมบัติของ Antioxidant และAnti - aging สูงกว่าไก่ทั่วไป
✅มีแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ กว่า 20 ชนิด โดยเฉพาะแร่ธาตุ 8 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถหาได้จากอาหารทั่วไป
✅บำรุงเลือดสำหรับสตรี โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ คุณแม่หลังคลอด คนสูงอายุ ช่วยขับฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen)
✅ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย บำรุงสมองทำให้สมองแจ่มใสกระชุ่มกระชวย เสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของร่างกายให้ต้านทานโรคต่างๆ
✅ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วจากอาการอ่อนเพลียเนื่องจากการเจ็บป่วย ช่วยให้เลือดที่สูญเสียกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว บำรุงอวัยวะที่หมดสภาพให้กลับฟื้นคืนเป็นปกติ
✅ไก่เราทุกตัวเลี้ยงด้วยสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเป็นยากว่า 5 ชนิด ❗❗❗ ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด ขมิ้นชัน กวาวเครือดำ กระชายดำ
✅ฟาร์มเราไม่ใช้ยาปฎิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ สารเร่ง วัคซีน และสารเคมีทุกชนิด ปลอดภัย ปลอดสารพิษตกค้าง 100%